สารปนเปื้อนในอาหาร
อาหารแต่ละชนิดที่เรารับประทานมีรสชาติต่างกัน เกิดจากสารปรุงแต่งรสอาหารที่แตกต่างกัน ส่วนประกอบบางชนิดได้มาจากธรรมชาติ เช่น ความหวานและกลิ่นจากเนื้อสัตว์ พืชผักต่างๆ แต่ก็มีสารปรุงแต่งกลิ่นและรสชาติบางชนิดที่คนเราสังเคราะห์ขึ้นมาเลียนแบบกลิ่นรสของธรรมชาติ เช่น ผงชูรส น้ำตาล เกลือ น้ำปลา น้ำส้มสายชู สีผสมอาหาร เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เป็นสารปนเปื้อนในอาหารที่มักจะมีสารเคมีเป็นองค์ประกอบอยู่ด้วยเสมอผู้ประกอบอาหารมีจุดประสงค์ในการใช้สารปนเปื้อนในอาหารต่างๆ กัน ดังนี้
1. ใส่สารกันบูด เพื่อป้องกันการเน่าเสีย
2. แต่งสีให้มีสันสันสวยงาม น่ารับประทาน เป็นการดึงดูดผู้บริโภค เช่น สีผสมอาหาร สีสกัดจากธรรมชาติ
3. เพื่อแต่งกลิ่นให้หอมชวนรับประทาน เช่น กลิ่นหอมของน้ำนมแมว น้ำกลิ่นกุหลาบ น้ำลอยดอกมะลิ กลิ่นจากการอบเทียนหอม เป็นต้น
4. เพื่อปรุงรส เช่น รสเปรี้ยวจากมะนาว น้ำส้มสายชู รสเค็มจากเกลือ น้ำปลา ซีอิ๊วขาว รสหวานจากน้ำตาล ขัณฑสกร
ผงชูรส ช่วยเพิ่มรสชาติของอาหาร ผงชูรสมีลักษณะเป็นผลึกสีขาวรูปร่างเป็นแท่งยาวๆ คอดตรงกลางเล็กน้อย ขนาดจะไม่สม่ำเสมอ ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง ละลายน้ำได้ ผลิตโดยวิธีการหมักแห้งมันสำปะหลังหรือกากน้ำตาลจากอ้อย ถ้ารับประทานมากเกินไปจะเกิดโทษต่อร่างกาย เนื่องจากกรรมวิธีในการผลิตผงชูรสค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อน ใช้เวลานาน และมีต้นทุนสูง จึงมีพ่อค้าแม่ค้าที่ขาดจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมนำสารสังเคราะห์ที่มีชื่อว่า บอแรกซ์ (borax) ซึ่งมีสีคล้ายผงชูรส แต่มีลักษณะเป็นเม็ดกลมเล็กๆ และราคาถูกกว่า มาผสมในผงชูรสแท้เพื่อเพิ่มปริมาณและน้ำหนัก ซึ่งสารบอแรกซ์นี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพมาก โดยปกติมักจะใช้สารบอแรกซ์ในอุตสาหกรรมการเชื่อมทอง จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "น้ำประสานทอง"หรือ "ผงกรอบ"

1. ทำให้เกิดพิษสะสมในร่างกาย จะมีอาการเบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ กรวยไตอักเสบ
2. ถ้าสะสมในร่างกายมากเกินไปอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิต เช่น ถ้าเด็กได้รับเกิน 5 กรัม ผู้ใหญ่รับเกิน 15 กรัม จะเสียชีวิตได้
วิธีการตรวจสอบว่าผงชูรสที่ซื้อมาเป็นของแท้หรือของปลอม ดังนี้
1. สังเกตลักษณะของผงชูรสด้วยตาเปล่าหรือใช้แว่นขยายส่องดู
ลักษณะผลึกของผงชูรสแท้จะเป็นแท่งยาวๆ คอดตรงกลาง ใส ไม่มีสี มีขนาดเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ส่วนผงชูรสปลอมจะพบผลึกของบอแรกซ์เจือปนอยู่ ซึ่งมีลักษณะเป็นเม็ดกลมเล็กๆ ไม่ใส
2. ใส่ผงชูรสในช้อนโลหะแล้วนำไปเผาไฟ สักครู่ผงชูรสจะหลอมละลาย ถ้าเป็นสีน้ำตาลดำแสดงว่าเป็นผงชูรสแท้ ถ้ามีสีขาวหรือสีเทา แสดงว่าเป็นผงชูรสปลอม
3. ทดสอบด้วยกระดาษขมิ้น โดยนำผงชูรสไปละลายน้ำ จากนั้นนำกระดาษขมิ้นจุ่มลงไปในสารละลายของผงชูรส สังเกตสีของกระดาษขมิ้น ถ้ากระดาษขมิ้นไม่เปลี่ยนสี (สีเหลืองคงเดิม) แสดงว่าเป็นผงชูรสแท้ แต่ถ้ากระดาษขมิ้นเปลี่ยนเป็นสีส้ม สีส้มแดง หรือสีแดง แสดงว่ามีสารบอแรกซ์ปลอมปนอยู่ในผงชูรสนั้น
น้ำส้มสายชู เป็นสารปรุงแต่งรสอาหารเพื่อให้รสเปรี้ยว นิยมนำมาใช้แทนมะนาว น้ำส้มสายชูเป็นสารสังเคราะห์ที่มนุษย์ผลิตขึ้นผ่านกระบวนการหมักจากวัตถุดิบในธรรมชาติ ได้แก่ ข้าวเหนียว น้ำตาล กากน้ำตาล และผลไม้ต่างๆ แต่ในบางครั้งก็มีผู้ผลิตที่เห็นแก่ตัวนำกรดแร่มาเจือจางกับน้ำแล้วบรรจุขวดขาย ซึ่งน้ำกรดเจือจางนี้เป็นอันตรายต่อร่างกายเป็นอย่างยิ่ง

วิธีการตรวจสอบน้ำส้มสายชูว่าแท้หรือปลอม มีดังนี้
1. นำใบผักชีมาแช่ในน้ำส้มสายชูประมาณ 10 นาที ถ้าใบผักชียังคงสดเหมือนเดิมแสดงว่าเป็นน้ำส้มสายชูแท้ แต่ถ้าใบผักชีเปลี่ยนสี เหี่ยว หรือเปื่อยยุ่ย แสดงว่าเป็นน้ำส้มสายชูปลอม
2. สังเกตพริกดองในน้ำส้มสายชู ถ้าพริกดองเปื่อยยุ่ย น้ำส้มสายชูมีสีขุ่น แสดงว่าเป็นน้ำส้มสายชูปลอม
3. ใช้สารละลายเจนเชี่ยนไวโอเลตหรือน้ำยาสำหรับป้ายลิ้นเด็กซึ่งมีสีม่วง
โดยหยดน้ำยานี้ลงในน้ำส้มสายชู ถ้ายังคงมีสีม่วงเหมือนเดิมแสดงว่าเป็นน้ำส้มสายชูแท้ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นสีเขียวแสดงว่าเป็นน้ำส้มสายชูปลอม
น้ำส้มสายชูโดยทั่วไปมี 3 ชนิด คือ น้ำส้มสายชูหมัก น้ำส้มสายชูกลั่น และน้ำส้มสายชูเทียม ซึ่ง 2 ชนิดแรกสามารถบริโภคได้อย่างปลอดภัย ส่วนชนิดที่ 3 ถ้ารับประทานมากเกินไปจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ สีผสมอาหาร มี 2 ประเภท คือ สีจากธรรมชาติและสีสังเคราะห์จากสารเคมี สีที่ได้จากธรรมชาติ เช่น สีเหลืองจากขมิ้น สีเขียวจากใบเตย สีน้ำเงินจากดอกอัญชัน สีแดงจากดอกกระเจี๊ยบ เป็นต้น สีธรรมชาติเหล่านี้ไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ สำหรับสีสังเคราะห์จากสารเคมีแบ่งเป็นสีผสมอาหาร สีย้อมผ้า หรือสีอื่นที่ไม่ได้ใช้สำหรับประกอบอาหาร สีผสมอาหารต้องได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขจึงจะเป็นปลอดภัยต่อการบริโภค
![]() | ![]() |
สีสังเคราะห์ผสมอาหาร
|
สีย้อมผ้า
|
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
สารกันบูด คือสารเคมีชนิดหนึ่ง ช่วยป้องกันหรือทำลายเชื้อจุลินทรีย์ในอาหารไม่ให้เจริญเติบโต ทำให้อาหารไม่เน่าเสีย เก็บไว้ได้นาน แต่ต้องใช้ในปริมาณที่กำหนด ควรหลีกเลี่ยงการใช้สารกันบูด โดยเลือกถนอมอาหารแบบธรรมชาติ เช่น การดอง การแช่อิ่ม การเชื่อม หรือการอบแห้ง ในปัจจุบันมีอาหารมากมายหลายชนิดที่สามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่เน่าเสีย เช่น หมูยอ แหนม น้ำพริกแกง นักเรียนเคยสงสัยหรือไม่ว่าอาหารเหล่านี้ ทำไมจึงสามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่เน่าเสีย ให้สังเกตที่ฉลากติดกับบรรจุภัณฑ์ที่บรรจุอาหารเหล่านี้จะพบคำว่าโซเดียมเบนโซเอทหรือโซเดียมไนไตรต์เป็นส่วนผสม ซึ่งชื่อเหล่านี้เป็นชื่อทางเคมีของสารกันบูดนั่นเอง
![]() |
ดังนั้นในการเลือกซื้ออาหารจึงควรสังเกตและอ่านฉลากที่ระบุปริมาณการใช้ว่าเกินจากที่กฎหมายกำหนดไว้หรือไม่ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่บริโภคอาหารสำเร็จรูปที่ใส่สารกันบูดก็จะดีกว่า โดยเลือกซื้ออาหารที่ปรุงเสร็จใหม่ๆ เพราะว่าไม่เพียงแต่ปลอดภัยแล้วยังจะได้คุณค่าของอาหารมากกว่าด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น