วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ดาว

นักดาราศาสตร์ได้แบ่งดวงดาวบนท้องฟ้าออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. ดาวฤกษ์ (fix star) คือดาวที่มีความร้อนและแสงสว่างในตัวเอง เช่น ดาวเหนือ ดาวซิริอุส
เมื่อมองดูท้องฟ้าในเวลากลางคืนจะเห็นดาวฤกษ์มากมาย ดาวฤกษ์เหล่านั้นอยู่ในกาแล็กซีทางช้างเผือก มีอยู่ประมาณหนึ่งแสนสองหมื่นห้าพันล้านดวง ในคืนเดือนมืดจะมองเห็นเป็นทางสีขาวพาดจากขอบฟ้าด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง มีรูปร่างไม่สม่ำเสมอ เรียกแถบสีขาวนี้ว่า ทางช้างเผือก (Milky Way)
2. ดาวเคราะห์ (planet) คือดาวที่ไม่มีแสงสว่างในตัวเอง แสงของดาวเคราะห์เกิดจากแสงที่สะท้อนจากดาวฤกษ์หรือดวงอาทิตย์มาอีกทีหนึ่ง
ถ้าเราเห็นดาวดวงหนึ่งบนท้องฟ้า และเมื่อตรวจสอบกับแผนที่ดาวแล้วไม่มีในแผนที่ดาว สันนิษฐานได้ว่า อาจเป็นดาวเคราะห์ แต่เราจะต้องดูลักษณะอื่นๆ ด้วย ถ้าเป็นดาวเคราะห์จริงจะต้องมีความสว่างคงที่ แสงไม่กะพริบระยิบระยับแบบดาวฤกษ์ อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ดาวเคราะห์ปรากฏอยู่ใกล้ๆ กับขอบฟ้าก็อาจจะกะพริบได้เหมือนกันเนื่องจากแสงที่ตกกระทบและสะท้อนออกจากดาวเคราะห์ต้องผ่านชั้นบรรยากาศที่หนากว่าตอนที่ดาวเคราะห์อยู่ใกล้กลางศีรษะ ระนาบวงโคจรของดาวเคราะห์แต่ละดวงจะเรียงกันเป็นระนาบใกล้เคียงกัน มีวงโคจรเอียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นเมื่อเรามองท้องฟ้าจากโลก เราจะเห็นดาวเคราะห์ปรากฏเรียงกันเป็นแนวกว้างๆ หรือที่เรียกว่า แถบจักรราศี

สรุป

ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์สามารถสังเกตได้ดังนี้
            - ดาวฤกษ์มีการกะพริบแสง เพราะดาวฤกษ์อยู่ไกลจากโลกมาก เมื่อแสงเดินทางผ่านชั้นบรรยากาศจึงเกิดการหักเห ทำให้เรามองเห็นแสงกะพริบ
            - ดาวเคราะห์จะมีแสงสว่างนวลนิ่งไม่กะพริบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น